Please use this identifier to cite or link to this item:
http://kmutnb-ir.kmutnb.ac.th/jspui/handle/123456789/232
Title: | Guidelines for managing food waste in the rubber processing industry according to the control of employees in the establishment แนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา ตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการ |
Authors: | PADUNGDET YARUNGSI ผดุงเดช ยารังษี THITIRAT THAWORNSUJARITKUL ฐิติรัตน์ ถาวรสุจริตกุล King Mongkut's University of Technology North Bangkok THITIRAT THAWORNSUJARITKUL ฐิติรัตน์ ถาวรสุจริตกุล thitirat.t@fba.kmutnb.ac.th,thitiratth@kmutnb.ac.th thitirat.t@fba.kmutnb.ac.th,thitiratth@kmutnb.ac.th |
Keywords: | แนวทางในการจัดการขยะอาหาร อุตสาหกรรมแปรรูปยางพารา |
Issue Date: | 8 |
Publisher: | King Mongkut's University of Technology North Bangkok |
Abstract: | ปัจจุบันสถานประกอบการอุตสาหกรรมที่ดำเนินการเกี่ยวกับการแปรรูป พบปัญหาเกี่ยวกับอาหารส่วนเกินที่เกิดจากการผลิต จนก่อให้เกิดขยะอาหาร ตามรายงานขององค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ พบว่า 1 ใน 3 ของอาหารที่ผลิตทั้งปีกลายเป็นขยะอาหารมีสาเหตุจาก ปัจจัยการผลิตอาหารที่มากเกินความจำเป็น ตลอดจน การขนส่ง การจัดจำหน่าย รวมถึงการบริโภคที่ก่อให้เกิดอาหารส่วนเกินเพิ่มขึ้นดังนั้น การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาปัจจัยและแนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวน 192 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ค่าความแปรปรวนทางเดียว และค่า Scheffe กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05ผลการวิจัยพบว่า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเพศชาย อายุอยู่ในช่วง 18 – 22 ปี ตำแหน่งระดับผู้บริหาร มีประสบการณ์การทำงานต่ำกว่า 10 ปี รายได้เฉลี่ยมากกว่า 45,000 บาท ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ ระหว่าง 10 – 20 ปี ขนาดของสถานประกอบการ โรงงานขนาดเล็ก จำนวนบุคลากรไม่เกิน 50 คน มีนโยบายการจัดการสิ่งแวดล้อม คือการนำข้อร้องเรียนจากชุมชนด้านผลกระทบกับสิ่งแวดล้อมนำมาปรับปรุงแก้ไข ในส่วนของการมอบหมายผู้รับผิดชอบหลักด้านสิ่งแวดล้อม คือ ผู้จัดการด้านสิ่งแวดล้อม(Environmental ผู้ตอบแบบสอบถามให้ระดับความสำคัญด้านหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดขยะ (Reduce) ด้านการเพิ่มประโยชน์ (Reuse) ด้านการรีไซเคิล (Recycle) ด้านการเปลี่ยนเป็นพลังงาน (Recover) โดยภาพรวมอยู่ในระดับสำคัญมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า อยู่ในระดับมากทั้งหมดเรียงตามลำดับผลการเปรียบเทียบความแตกต่าง จำแนกตามสถานภาพทั่วไปด้านเพศ พบว่า มีความแตกต่างกัน จำนวน 3 รายการ รายข้อ ได้แก่ ใช้วัตถุดิบที่เหลือนำมาประกอบเป็น เมนูอาหารใหม่ (Sig = 0.01*) แยกขยะอาหารออกจากขยะประเภทอื่นอย่างถูกต้อง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อ (Sig = 0.00*) และนำขยะอาหารหมักและแปลรูปเป็นก๊าซ (Sig = 0.02*) จำแนกตามสถานภาพทั่วไปด้านช่วงอายุ พบว่า มีความแตกต่างกัน จำนวน 1 รายการ รายข้อ ได้แก่ สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอกทั้งภาครัฐและเอกชนในการรีไซเคิลขยะอาหาร (Sig = 0.05*) แต่เมื่อเปรียบเทียบเป็นรายคู่ พบว่าไม่พบรายคู่ใดที่ให้ความสำคัญกับแนวทางการจัดการขยะอาหารของ อุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเมื่อจำแนกด้านตำแหน่งงาน พบว่า มีความแตกต่างกัน จำนวน 1 รายการ รายข้อ ได้แก่ สร้างกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการนำรีไซเคิลขยะอาหารในสถานประกอบการ (Sig = 0.01*) และเมื่อเปรียบเทียบเป็นรายคู่ พบว่า มีจำนวน 1 คู่ ได้แก่ ตำแหน่งผู้บริหาร ให้ความสำคัญกับแนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมแปรรูปยางพาราตามทัศนคติของพนักงาน ในสถานประกอบการ มากกว่า ระดับปฏิบัติการและระดับหัวหน้างาน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 |
URI: | http://kmutnb-ir.kmutnb.ac.th/jspui/handle/123456789/232 |
Appears in Collections: | FACULTY OF BUSINESS ADMINISTRATION |
Files in This Item:
File | Description | Size | Format | |
---|---|---|---|---|
s6614011857347.pdf | 3.13 MB | Adobe PDF | View/Open |
Items in DSpace are protected by copyright, with all rights reserved, unless otherwise indicated.