FACTORS AFFECTING PURCHASE DECISION FOR HERBAL INHALER IN BANGKOK

Abstract

This study examines the factors affecting purchase decision for herbal inhaler in Bangkok. The sample group consists of 100 consumers who reside in Bangkok and have previously purchased herbal inhalers, selected through purposive sampling. The research instrument used is a questionnaire regarding the factors affecting the decision-making process in purchasing herbal inhalers in Bangkok. Statistical tools for data analysis include percentage, mean, and standard deviation. The research results are as follows: 1. The majority of the respondents are male, aged between 20-30 years, holding a bachelor's degree, working in private companies, with an average monthly income of more than 30,001 baht. 2. The overall importance level of the factors affecting the decision to purchase herbal inhalers in Bangkok is rated as high, with an average score of 4.01. When considered by category, the product, price, and distribution channels are considered of high importance, while marketing promotion is considered of moderate importance. The product category has an average score of 4.46, distribution channels have an average score of 4.44, price has an average score of 3.84, and marketing promotion has an average score of 3.30, respectively.

การศึกษาค้นคว้าอิสระครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับความสำคัญของปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อยาดมสมุนไพรในกรุงเทพมหานคร กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ คือ ผู้บริโภคที่อาศัยอยู่ในกรุงเทพมหานครเคยซื้อยาดมสมุนไพร จำนวน 100 คน ได้มาด้วยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อยาดมสมุนไพรในกรุงเทพมหานคร สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานผลการวิจัยพบว่า1. กลุ่มตัวอย่างที่ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย มีอายุ 20-30 ปี ระดับการศึกษาปริญญาตรี เป็นพนักงานบริษัทเอกชน และรายได้เฉลี่ยต่อเดือน มากกว่า 30,001 บาทขึ้นไป2. ระดับความสำคัญของปัจจัยในการตัดสินใจเลือกซื้อยาดมสมุนไพรในกรุงเทพมหานคร ผลโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.01 เพื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย อยู่ในระดับความสำคัญมาก และด้านการส่งเสริมการตลาด อยู่ในระดับความสำคัญปานกลาง โดยด้านผลิตภัณฑ์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.46 ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.44 ด้านราคา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84 และด้านการส่งเสริมการตลาด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.30 ตามลำดับ