Design of database management program to reduce working time in the summary of assembly cost for marketing and engineering department

Abstract

This thesis aims to design a database management program to reduce the time spent summarizing ambulance assembly costs for the marketing and engineering departments. The problems addressed include the excessive time employees spend summarizing data, as well as the lack of real-time data updates. These issues result in employees wasting time searching for product cost information and summarizing ambulance assembly profits. The developed program, utilizing Power BI and Google Drive for data storage, successfully reduced the time spent summarizing ambulance specifications by 54.7% and the time spent summarizing ambulance assembly costs by 61.6%. Additionally, it eliminated the need for email correspondence and enabled real-time data searches on the dashboard reports. An evaluation involving a samples group of 11 users, covering three aspects usability, design, and system display revealed an average score of 4.22, indicating a "good" level of assessment. Furthermore, the creation of a database with real-time data access proved to be a key factor in enabling rapid and accurate analysis of ambulance cost and profit data, leading to maximum profitability. In conclusion, the developed program effectively reduces time and improves the workflow for summarizing ambulance assembly cost data.

สารนิพนธ์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อออกแบบโปรแกรมจัดการฐานข้อมูลเพื่อลดเวลาในการสรุปต้นทุนประกอบรถพยาบาลสำหรับแผนกการตลาดและแผนกวิศวกรรม จากปัญหาพนักงานใช้เวลาสรุปข้อมูลที่นานเกินความจำเป็น รวมทั้งปัญหาข้อมูลที่ไม่มีการอัพเดทแบบเรียลไทม์ ส่งผลให้พนักงานเสียเวลาในการค้นหาข้อมูลต้นทุนสินค้าและสรุปกำไรการประกอบรถพยาบาล จากโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นโดยใช้โปรแกรม Power BI และ Google Drive เพื่อเป็นฐานจัดเก็บข้อมูลสามารถลดเวลาสรุปข้อมูลคุณลักษณะรถพยาบาลได้ร้อยละ 54.7 และลดเวลาสรุปต้นทุนประกอบรถพยาบาลลงได้ร้อยละ 61.6 รวมถึงสามารถยกเลิกการส่งอีเมลและรองรับการค้นหาข้อมูลบนรายงานแดชบอร์ดได้แบบเรียลไทม์ จากผลการประเมินกลุ่มตัวอย่างผู้ใช้งาน 11 คน ครอบคลุม 3 ด้าน ได้แก่ การใช้งาน การออกแบบ และการแสดงผลของระบบ พบว่าค่าเฉลี่ยทั้ง 3 ระบบอยู่ที่ 4.22 ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ประเมินระดับดี นอกจากนี้การสร้างฐานข้อมูลที่สามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเรียลไทม์เป็นปัจจัยหลักที่ช่วยทำให้วิเคราะห์ข้อมูลราคาต้นทุนและกำไรของรถพยาบาลได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง ทำให้มีกำไรสูงสุด จึงสรุปได้ว่าโปรแกรมที่พัฒนาขึ้นช่วยลดเวลาและปรับปรุงกระบวนการทำงานสรุปข้อมูลต้นทุนการประกอบรถพยาบาลได้เป็นอย่างดี