Guidelines for managing food waste in the plastics industry According to the attitude of employees in the establishment

Abstract

The research aims to Guidelines for managing food waste in the plastics industry According to the attitude of employees in the establishment site employees, using questionnaires as tools for collecting 212 data. Data analysis uses statistics on percentage, mean deviation, mean difference, one-way variance and Scheffe determine statistical significance at the level. 05.The findings show that the majority of respondents were males aged 23-39, supervisor-level positions with less than 10 years of work experience, with an average income of more than 45. 10,000 baht, less than 10 years of business operation, size of small business establishments, number of personnel, number of small business establishments, number of personnel, number of 200 or more, respondents placed a very high level of importance overall. be in a large order all in all order.The results of the comparison showed that personnel aged 55 years and above and in executive positions had a working experience of 10-20 years. Focus on Guidelines for managing food waste in the plastics industry According to the attitude of employees in the establishment, it is very high. There was a statistically significant difference at the .05 level. Regarding Guidelines for managing food waste in the plastics industry According to the attitude of employees in the establishment.

การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาแนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมพลาสติก ตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการ โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการเก็บรวบรวมข้อมูลจำนวน 212 ราย การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การวิเคราะห์ความแตกต่างของค่าเฉลี่ย ค่าความแปรปรวนทางเดียว และค่าเชฟเฟ่ กำหนดนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05ผลการวิจัยพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศชาย อายุอยู่ในช่วง 23-39 ปี ตำแหน่งระดับหัวหน้างาน มีประสบการณ์การทำงาน ต่ำกว่า 10 ปี รายได้เฉลี่ยมากกว่า 45,000 บาท ระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจ น้อยกว่า 10 ปี ขนาดของสถานประกอบการ ขนาดเล็ก จำนวนบุคลากรไม่เกิน 50 คน และ สถานประกอบการขนาดใหญ่ จำนวนบุคลากรตั้งแต่ 200 คนขึ้นไป ผู้ตอบแบบสอบถามให้ระดับความสำคัญโดยภาพรวมอยู่ในระดับสำคัญมาก เมื่อจำแนกเป็นรายด้านพบว่า หลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดขยะ ด้านการเพิ่มประโยชน์ ด้านนำกลับมาใช้ใหม่และ ด้านการเปลี่ยนเป็นพลังงาน อยู่ในระดับมากทั้งหมดเรียงตามลำดับผลการเปรียบเทียบความแตกต่าง พบว่า บุคลากรที่มีช่วงอายุ 55 ปีขึ้นไป และอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารมีอายุการทำงาน 10-20 ปี ให้ความสำคัญเกี่ยวกับแนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมพลาสติก ตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการ อยู่ในระดับมาก สรุปได้ว่า ปัจจัยด้านสถานภาพส่วนบุคคล มีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เกี่ยวกับแนวทางการจัดการขยะอาหารของอุตสาหกรรมพลาสติก ตามทัศนคติของพนักงานในสถานประกอบการ