A STUDY ON THE SELF-DEVELOPMENT OF ACADEMIC PERSONNEL UNDER THE NONTHABURI PRIMARY EDUCATIONAL SERVICE AREA OFFICE 2

Abstract

The purpose of this independent study was to examine the status of self-development among academic personnel under the Nonthaburi Primary Educational Service Area Office 2. A descriptive research methodology was employed. The scope of the study focused on academic personnel within the said office, with a sample size of 200 individuals. Data were collected using a questionnaire and analyzed using percentage, mean, and standard deviation statistics.The findings revealed that the overall status of self-development among academic personnel was at a high level. When analyzed by specific aspects, it was found that self-directed learning ranked first, followed by further education, training/seminars, career advancement, study visits, and research, respectively. As for the recommendations, it is suggested that the organization prioritize the development of academic support personnel to achieve the agency’s objectives. There should also be support for further education, with administrators emphasizing and promoting educational scholarships for personnel. This would enhance their potential, lead to improved work performance, foster new ideas, increase work efficiency, and contribute to the fulfillment of the organization’s objectives.

การค้นคว้าอิสระในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพการพัฒนาตนเองของบุคลากร สายวิชาการ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 ใช้ระเบียบวิธีวิจัย เชิงพรรณนา ขอบเขตของการศึกษาค้นคว้าอิสระโดยใช้กลุ่มตัวอย่าง คือ บุคลากรสายวิชาการในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 จำนวน 200 คน เก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการค้นคว้าอิสระพบว่า การศึกษาสภาพการพัฒนาตนเองของบุคลากรสายวิชาการสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานนทบุรี เขต 2 โดยภาพรวมและรายด้านการพัฒนาตนเองอยู่ในระดับมาก และเมื่อพิจารณาตามลำดับสภาพการพัฒนาตนเองของบุคลากรสายวิชาการ โดยวิเคราะห์แยกรายด้าน พบว่า ด้านการเรียนรู้ด้วยตัวเองเป็นลำดับแรก ด้านการศึกษาต่อ ด้านการฝึกอบรม/สัมมนา ด้านการเข้าสู่ตำแหน่ง ด้านศึกษาดูงาน และด้านการวิจัย ตามลำดับสำหรับข้อเสนอแนะ พบว่า หน่วยงานควรจัดลำดับความสำคัญของการพัฒนาบุคลากรสายวิชาการ เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน และควรที่จะให้มีการสนับสนุนทางด้านการศึกษาต่อ ผู้บริหารควรให้ความสำคัญ มีการส่งเสริมในด้านการให้ทุนการศึกษาแก่บุคลากร เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับบุคลากร เกิดการพัฒนางาน เกิดการพัฒนาแนวคิดของบุคลากรทำให้การปฏิบัติมีประสิทธิภาพ และสามารถบรรลุตามวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน